แก้วมังกร
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hylocereus spp.
พันธุ์เนื้อสีขาว
ลักษณะรูปร่าง: เป็นผลไม้ที่มีรูปร่างรีคล้ายรูปทรงของไข่ และมีกลีบเลี้ยงสีเขียวอยู่ทั่วทั้งผล
สี: เปลือกสีชมพู เนื้อนิ่มสีขาวและฉ่ำน้ำ มีเมล็ดสีดำเล็กๆอยู่ในเนื้อ
รสชาติ: หวาน
พันธุ์เนื้อสีชมพู
ลักษณะรูปร่าง: เป็นผลไม้ที่มีรูปร่างรีคล้ายรูปทรงของไข่ และมีกลีบเลี้ยงสีเขียวอยู่ทั่วทั้งผล
สี: เปลือกสีชมพู
เนื้อ: นิ่มสีชมพูและฉ่ำน้ำ มีเมล็ดสีดำเล็กๆอยู่ในเนื้อ
รสชาติ: หวาน
วิธีการบริโภค : วิธีการเตรียมก่อนการรับประทาน
แบ่งผลออกเป็นสองส่วน ผ่าครึ่งตามทางยาว
ตัดแบ่งแต่ละครึ่งออกเป็นสองชิ้น
สไลด์ตามทางยาวออกเป็น 4 ชิ้น รับประมานแต่เนื้อข้างใน ไม่ทานเปลือก
การรับประทาน
- รับประทานสดโดยไม่ต้องปรุง
- สามารถนำมาทำเป็นส่วนประกอบของสลัดผลไม้
- นำมาทำเป็นน้ำผลไม้
การเก็บรักษา : เก็บได้ประมาณ 14 วัน ที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ความชื้น 90 %
ฤดูกาล:
ให้ผลผลิต ตลอดปี
ช่วงเวลาที่ผลผลิตของแก้วมังกรมีมากที่สุด คือ เดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม
โภชนาการ :
พันธุ์เนื้อสีขาว
ลักษณะรูปร่าง: เป็นผลไม้ที่มีรูปร่างรีคล้ายรูปทรงของไข่ และมีกลีบเลี้ยงสีเขียวอยู่ทั่วทั้งผล
สี: เปลือกสีชมพู เนื้อนิ่มสีขาวและฉ่ำน้ำ มีเมล็ดสีดำเล็กๆอยู่ในเนื้อ
รสชาติ: หวาน
พันธุ์เนื้อสีชมพู
ลักษณะรูปร่าง: เป็นผลไม้ที่มีรูปร่างรีคล้ายรูปทรงของไข่ และมีกลีบเลี้ยงสีเขียวอยู่ทั่วทั้งผล
สี: เปลือกสีชมพู
เนื้อ: นิ่มสีชมพูและฉ่ำน้ำ มีเมล็ดสีดำเล็กๆอยู่ในเนื้อ
รสชาติ: หวาน
วิธีการบริโภค : วิธีการเตรียมก่อนการรับประทาน
แบ่งผลออกเป็นสองส่วน ผ่าครึ่งตามทางยาว
ตัดแบ่งแต่ละครึ่งออกเป็นสองชิ้น
สไลด์ตามทางยาวออกเป็น 4 ชิ้น รับประมานแต่เนื้อข้างใน ไม่ทานเปลือก
การรับประทาน
- รับประทานสดโดยไม่ต้องปรุง
- สามารถนำมาทำเป็นส่วนประกอบของสลัดผลไม้
- นำมาทำเป็นน้ำผลไม้
การเก็บรักษา : เก็บได้ประมาณ 14 วัน ที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ความชื้น 90 %
ฤดูกาล:
ให้ผลผลิต ตลอดปี
ช่วงเวลาที่ผลผลิตของแก้วมังกรมีมากที่สุด คือ เดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม
โภชนาการ :
อุดมไปด้วยวิตามินซีและไฟเบอร์
แก้วมังกรเนื้อสีแดงมีสารไลโคปีนที่สามารถต่อต้านมะเร็ง โรคหัวใจ
และความดันโลหิตต่ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น